ลำดับเหตุการณ์

17 พฤษภาคม 2553

นปช. – โรงแรมดุสิตโดนถล่มด้วยระเบิดเอ็ม 79 หลายลูก

รัฐบาล –  ศอฉ.ประกาศย้ำให้ผู้ชุมนุมออกจากพื้นที่ราชประสงค์ภายในเวลา 15.00 น.

12.50 น. นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย และนายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง แถลง

นายสาทิตย์ระบุว่ามี 3 กลุ่มเสี่ยงที่จะถูกปฏิบัติการโดยกองกำลังติดอาวุธของผู้ก่อการร้าย

สาทิตย์อธิบายกระแสข่าวเรื่องทหารฆ่าประชาชนว่า เจ้าหน้าที่อยู่ห่างจากจุดชุมนุมที่ราชประสงค์ 1.5-2 กิโลเมตร ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ถูกขัดขวางจากกองกำลังติดอาวุธ แม้ว่าผู้ชุมนุมจะมีการใช้เพียงหนังสติ๊กแต่ก็ได้มีกองกำลังติดอาวุธอยู่ในแนวหลัง ส่วนการใช้อาวุธของเจ้าหน้าที่นั้นเป็นไปเพื่อป้องกันตัวในที่ตั้ง

ปณิธานกล่าวถึงข้อเรียกร้องของแกนนำ และยืนยันถึงการให้ยุติการชุมนุม และหยุดการโจมตีเจ้าหน้าที่

ดูคลิป 20100517_CRES_001

ศอฉ. ออกประกาศ 3 ข้อ

  1. ให้ผู้ชุมนุมออกจากพื้นที่การชุมนุมโดยด่วน ภายในวันนี้ เวลา 15.00 น.
  2. ผู้ที่สมัครใจจะเดินทางออกจากพื้นที่ชุมนุมภายในเวลากำหนดเจ้าหน้าที่จะ อำนวยความสะดวกให้ท่านเดินทางกลับภูมิลำเนาของท่านโดยปลอดภัย
  3. หากผู้ใดยังอยู่ในพื้นที่การชุมนุมจะถือว่ามีความผิดมีโทษจำคุกสูงสุด 2 ปี การอยู่ในพื้นที่ชุมนุมยังเป็นภัยต่อตัวท่าน เพราะกลุ่มก่อการร้ายกำลังทำให้บาดเจ็บและเสียชีวิตในพื้นที่

(ดู “ศอฉ.ขีดเส้น ก่อนบ่าย3 ผู้ชุมนุมออกจากพื้นที่,” ประขาไท, 17 พ.ค.53  ; ดูคลิป 20100517_CRES_002)

เวลา 20.45 น. ศอฉ.แถลงข่าว

พ.ต.อ.ทรงพล วัฒนะชัย รองผบก.น.1 รายงานความคืบหน้าผลการดำเนินคดีผู้ที่ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินในรอบ 2 วันที่ผ่านมา และกล่าวอีกว่า สำหรับร้านจำหน่ายยาง ถ้าทางการทราบว่าท่านมีส่วนรู้เห็นก็มีความผิดตามกฎหมายเช่นกัน ขณะนี้ ตำรวจจับกุมผู้ลำเลียงยางรถยนต์ได้หลายคดี ยึดได้ 600 กว่าเส้นแล้ว

พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษก ศอฉ.กล่าวว่า ศอฉ. มีความเป็นห่วงต่อความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป เพราะมีข้อมูลข่าวสารว่า กลุ่มก่อการร้ายที่ชุมนุมที่ราชประสงค์มีความพยายมมสร้างสถานการณ์ทำร้าย ประชาชนให้บาดเจ็บเ สียชีวิต เป้าหมายคือประชาชนทั่วไป ผู้ที่ร่วมชุมนุม หน่วยกู้ภัย และสื่อมวลชน วันนี้ชัดเจนว่า บริเวณตึกชีวาทัยใกล้กับตึกเซ็นจูรี่ มีกลุ่มชายฉกรรจ์ประมาณห้าถึงสิบคน แต่งกายคล้ายทหารขึ้นไปซุ่มยิงชั้น 24 ถึง 27 ขึ้นไปซุ่มยิงอย่างนี้ส่งผลให้ประชาชนที่ผ่านไปมาอาจได้รับอันตรายได้ แม้กระทั่งทหารเอง ตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้น คุณกำปั้น (คริชนะ พาณิชย์พงษ์ หรือกำปั้น วงบาซู) และญาติที่เสียชีวิตก็มีความเป็นไปได้สูงว่าซุ่มยิงมาจากตึกชีวาทัย ขณะนี้เจ้าหน้าที่พยายามเข้าไปกดดันตรวจสอบพื้นที่ แต่เป็นตึกกำลังก่อสร้างมีผ้าใบคลุมอยู่จึงตรวจสอบยาก

“นอก จากนี้ยังมีความพยายาทำลายทรัพย์สิน ปล้นสดมภ์ ทำร้ายประชาชนให้บาดเจ็บ เสียชีวิต การจุดไฟเผายาง อาคารบ้านเรือน ทำลายรถน้ำมัน กลุ่มก่อการร้ายที่ใช้ชื่อว่า “เสื้อแดง” ไม่สามารถปฏิเสธการรับผิดชอบดังกล่าว เพราะเป็นพื้นที่ที่ยังไม่มีใครเข้าไปในนั้นเลย” พ.อ.สรรเสริญกล่าว

จาก นั้น พ.อ.สรรเสริญ เปิดคลิปแสดงให้เห็นว่ากลุ่มผู้ชุนนุมใช้เด็กเป็นโล่มนุษย์ อยู่เหนือยางรถยนต์ ขณะที่คนอื่นอยู่ต่ำกว่ายางรถยนต์ และภายหลังกองยางมีทั้งระเบิดเพลิง การเผายาง รวมไปถึงแสดงภาพผู้ชุมนุมคนหนึ่งถืออาวุธปืนสั้น นอกจากนี้ยังฉายคลิปบริเวณชุมชนบ่อนไก่ซึ่งปรากฏชายโม่งดำลักษณะถือปืนเอ็ม สิบหก โดยพ.อ.สรรเสริญกล่าวว่า แสดงว่ามีอาวุธสงครามอยู่จริง โดยพยายามทำร้ายประชาชนด้วย เดิมเป้าหมายหลักคือทหาร แต่ตอนนี้เป้าหมายหลักของผู้ก่อการร้ายเปลี่ยนไปเพื่อให้ท่านเกิดความรู้สึก ไม่ปลอดภัย ท้ายที่สุด คือคลิปภาพเมื่อ 3-4 วันก่อนที่เจ้าหน้าที่ทหารเข้าไปเอารถน้ำแล้วโดนรุมทำร้าย พร้อมทั้งมีผู้นำปืนเอ็ม16ไป

“มี การปล้นสดมภ์ ขโมยน้ำมันจากรถทหารที่ถูกยึด แล้วเอาไปทำระเบิดเพลิง ทั้งยังมีการทุบทำลายตู้เอทีเอ็ม ขโมยเงินไป ภายในร้านสะดวกซื้อเอาไปทุกอย่างอาหารการกิน ยกเว้นหนังสือ ไม่ได้เอาไปเพราะรับข้อมูลด้านเดียวจากแกนนำ” พ.อ.สรรเสริญกล่าว

เขากล่าวทิ้งท้ายว่า กลุ่มคนกลุ่มนี้พยายามใช้คำพูดว่าให้ทหารหยุดฆ่าประชาชน พยายามบิดเบือนข้อมูล เพราะทหารไม่ได้ประสงค์ทำร้ายประชาชนเลย เพียงแค่กระชับวงล้อม และตั้งด่านเท่านั้น ความสูญเสียทั้งการบาดเจ็บและเสียชีวิต ส่วนหนึ่งเกิดจากกลุ่มก่อการร้ายกดดันเจ้าหน้าที่ตามด่านต่างๆ รวมถึงใช้กลุ่มคนจำนวนมากเคลื่อนหาทหาร

“ถ้าท่านไม่เคลื่อนที่เข้ามาก็ไม่เกิดการสูญเสีย ถ้าเราปล่อยให้ผู้ก่อการร้ายถึงตัว ผู้เสียชีวิตจะเพิ่มทบเท่าทวี แต่ไม่ใช่กลุ่มก่อการร้าย แต่เป็นเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ทุกฝ่ายที่ช่วยรักษาความสงบเรียบร้อยในบ้านเมือง” พ.อ.สรรเสริญกล่าว

(ดู “จำคุกผู้จะร่วมชุมนุมเพิ่มหลายราย สรรเสริญโชว์คลิป ชี้ผู้ก่อการร้ายทำร้ายประชาชน,” ประขาไท, 17 พ.ค. 53  ; ดูคลิป 20100517_CRES_003)

ฝ่ายที่สาม/ไม่ทราบฝ่าย – สื่อเครือมติชน-ข่าวสด-ประชาชาติธุรกิจออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่กำลังขัดแย้งกันอยู่ยุติการเข่นฆ่ากันในทันที

น.ส. นภัส ณ ป้อมเพ็ชร์ ทำหนังสือถึง CNN เพื่อประท้วงการรายงานข่าวการชุมนุมที่ให้ภาพด้านลบต่อทหารและรัฐบาลไทย แต่เสนอภาพด้านบวกต่อผู้ชุมนุมเสื้อแดง (ต่อมาได้มีหนังสือจากพระตำหนักจิตรลดารโหฐานลงวันที่ 24 ก.ค. 53 ลงชื่อพระนางเจ้าสิริกิตติ์ ถึง น.ส. นภัส แสดงความชื่นชมที่ช่วยฟื้นฟูภาพลักษณ์ของประเทศชาติ)

เกิดเหตุยิงเอ็ม 79 ใส่โรงแรมดุสิตธานี 3 ลูกซ้อน และปาระเบิดใส่ธนาคารกรุงเทพ สาขาลำลูกกา

หมายเหตุ –

 

18 พฤษภาคม 2553

นปช. – ช่วงค่ำ พล.อ. เลิศรัตน์ รัตนวานิช ส.ว. พร้อมคณะ และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ กับแกนนำ นปช. แถลงข่าวร่วมกันหลังหารือถึงแนวทางยุติความขัดแย้ง โดยแกนนำ นปช. รับข้อเสนอของ ส.ว. ยอมเข้าสู่กระบวนการเจรจากับรัฐบาล โดยมีนายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภาเป็นคนกลาง ท่ามกลางความไม่พอใจของผู้ชุมนุม

มีการชุมนุมของคนเสื้อแดงในส่วนภูมิภาครวม 17 จังหวัด

รัฐบาล – ศอฉ. ออกคำสั่งห้ามสถาบันการเงินดำเนินการทำธุรกรรมกับบุคคลและนิติบุคคลระลอกสอง จำนวน 19 ราย

ศอฉ. แถลงข่าว โดยพ.ต.อ.ทรงพล วัฒนชัย รองผู้บังคับการอำนวยการกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บชน.) ในฐานะรองโฆษก บชน. กล่าวถึงความคืบหน้าการจับกุมผู้จำหน่ายยางรถยนต์เก่าเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคมว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมีการรายงานผลการจับกุมยางรถยนต์เก่า ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติสามารถอายัดและจับกุมยางรถเก่าได้ทั้งสิ้น 9,021 เส้น

พ.ต.อ.ทรงพล กล่าวว่า ขณะนี้ตำรวจได้มีการจับกุมนายพิเชษฐ์ หรือ ภูมิกิตติ สุขจินดาทอง อายุ 50 ปี ที่บริเวณถนนสามเสน ซ.สามเสน 6 เขตดุสิต กทม. รับบทบาทเป็นการ์ดนปช. และรับมอบหมายเป็นหัวหน้าในการดูแลรับผิดชอบพื้นที่การชุมนุมที่แยกราชประสงค์ ซึ่งขณะนี้ได้ทำการสืบสวนและควบคุมตัวอยู่ที่กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดน ภาค 1 คลองหลวง จ.ปทุมธานี

จากการตรวจสอบเบื้องต้นนายพิเชษฐ์ ถือเป็นแกนนำหลักคนหนึ่ง ในลักษณะที่เป็นการ์ดคอยปกป้องรักษาแนว ซึ่งเราได้นำปัญหาตรงนี้ไปร้องขอต่อศาล เพื่อให้ออกหมายจับ ซึ่งนำมาซึ่งการจับกุมตามหมายจับได้ ซึ่งเราสามารถจับได้ขณะที่เขาออกมานอกพื้นที่ชุมนุมเพราะเรามีการเฝ้าติดตาม

ที่กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ (ร.11 รอ.) พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) แถลงผลการประชุม ศอฉ. ในช่วงเช้า ซึ่งมีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง ในฐานะผอ.ศอฉ.เป็นประธานว่า นายพิเชษฐ์ ถือเป็นมือขวาของพล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก และมีส่วนในการดำเนินการในลักษณะก่อการร้าย คุมการ์ดและควบคุมการปฏิบัติทางยุทธิวิธี ทั้งหลาย ถือว่า มีความหมายและเป็นผลดีอย่างมากต่อการปฏิบัติ ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ไม่ได้อยู่เฉย แม้ว่าวันนี้การบีบวงล้อมพื้นที่เรดโซนยังไม่ได้ดำเนินการ แต่มีความพยายามที่จะจัดการกับกลุ่มผู้ที่ออกมานอกเขตเรดโซน เพื่อสร้างความวุ่นวาย

ผู้สื่อข่าวรายงานศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ได้มีการแจกจ่ายเอกสารสรุปการใช้อาวุธ เอ็ม 79 ที่ใช้ในการยิงประชาชน ทหาร ตำรวจ ตั้งแต่วันที่ 13 -17 พ.ค.รวมทั้งสิ้น 56 ลูก โดยแบ่งเป็น

วันที่ 13 พ.ค. จำนวน 1 นัด เวลา 19.25 น. เกิดเหตุระเบิดเอ็ม 79 บริเวณแยกศาลาแดง จำนวน 2 นัด

วันที่ 14 พ.ค. จำนวน 21 นัด เวลา 18.45 น. เกิดเหตุระเบิดเอ็ม 79 จากบริเวณแยกศาลาแดงจำนวน 8 นัด เวลา 19.50 น. บริเวณบ่อนไก่ ถ.พระราม4 จำนวน 3 นัด เวลา 20.20 น. บริเวณบ่อนไก่ ถนนราชปรารภ สี่แยกประตูน้ำ จำนวน 4 นัด เวลา 22.05 น.บริเวณแอร์พอร์ตลิงค์ จำนวน 4 นัด เวลา 22.50 น. ตกหน้าแนวทหาร ม.พัน.5 บ่อนไก่ 1 นัด เวลา 23.15 น. บริเวณ แยกสามเหลี่ยมดินแดง 1 นัด

วันที่ 15 พ.ค. จำนวนทั้งสิ้น 19 นัด เวลา 05.15 น. ตกบริเวณหน้าแนวทหาร ม.พัน 5 หน้าสนามมวยลุมพินี จำนวน 1 นัด เวลา 16.40 น. เหตุระเบิดเอ็ม 79 ตกทางด่วนพระรามสี่ มาที่สนามมวยลุมพินีจำนวน 10 นัด เวลา 17.05 น. เหตุระเบิดเอ็ม 79 จากทางลงด่วนพระรามสี่ จำนวน 15 นัด เวลา 17.45 น.ตกหน้าแฟลต 5 สน.ลุมพินี จำนวน 1 นัด เวลา 18.45 น. ตกหน้า สน.ลุมพินี 1 นัด และสวมลุมพินีอีก 1 นัด

วันที่ 16 พ.ค. เวลา 17.00 น.ตกบริเวณบ่อนไก่ จำนวน 5 นัด

วันที่ 17 พ.ค. เวลา 00.30 น.ตกที่หน้าโรงแรมดุสิตธานี 1 นัด และอาคารเอื้อเจือเหลียงจำนวน 3 นัด เวลา 19.35 น.เหตุระเบิดเอ็ม 79 บริเวณใต้ทางด่วนพระรามสี่จำนวน 4 นัด 21.30 น.ตกใต้ทางด่วนพระรามสี่ อีก 2 นัด

ด้านกรุงเทพธุรกิจรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า ขณะนี้นายกรัฐมนตรีได้ให้นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ติดต่อประสานงานกับ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง เพื่อหาข้อยุติในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองที่เกิดขึ้นในขณะนี้ หลังจากที่นายณัฐวุฒิ ได้มีการติดต่อประสงค์ที่จะขอเจรจาเพื่อคลี่คลายสถานการณ์ดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ทำให้วันนี้นายณัฐวุฒิ ได้สั่งการให้กองกำลังติดอาวุธ หรือ ชายชุดดำ หยุดปฏิบัติการในการตอบโต้เจ้าหน้าที่ทหารบริเวณโดยรอบการชุมนุมของกลุ่มคน เสื้อแดงที่สี่แยกราชประสงค์ทั้งหมด ทำให้วันนี้ไม่ค่อยมีเสียงระเบิดจากอาวุธสงคราม เอ็ม 79 แต่อย่างใด

เวลา 11.30 น. ที่กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ (ร.11 รอ.) พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษก ศอฉ. แถลงผลการประชุม ศอฉ.ในช่วงเช้าที่มีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง ในฐานะผอ.ศอฉ.เป็นประธานว่า เวลานี้ยังไม่เหมาะสมที่จะใช้เคอร์ฟิว แต่โอกาสวันข้างหน้ายังไม่แน่นอนต้องดูความเหมาะสมของสถานการณ์ในแต่ละช่วงไปก่อน

เรื่องการทบทวนการใช้อาวุธของทหาร ตำรวจ ซึ่งที่ผ่านมาเราชี้แจงตลอดว่า การใช้อาวุธกระสุนจริง ก่อนการใช้มีขั้นตอนจากเบาไปหาหนัก แต่ขณะนี้สถานการณ์เปลี่ยนแปลงไป เพราะมีความรุนแรงมาก อย่างไรก็ตาม ทหาร ตำรวจจะไม่ใช้อาวุธกับผู้ไม่มีอาวุธร้ายแรงในมือ หรือผู้ที่ไม่พยายามเฮโลมากดดันที่ด่านต่างๆ ของเจ้าหน้าที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งระยะห่าง ขณะนี้ผู้ก่อการร้ายพยายามนำกองยางมาตั้งเป็นบังเกอร์ใกล้แนวที่ทหาร ตำรวจตั้งด่าน ซึ่งเราไม่สามารถปล่อยให้มีการดำเนินการอย่างนั้นได้ จำเป็นต้องรักษาระยะห่างระหว่างแนวกองยาง กับด่านของเจ้าหน้าที่ไว้ที่ 350-400 เมตร เราพยายามใช้การยิงด้วยกระสุนจริงในพื้นที่ที่ไม่มีใครอยู่ เพื่อข่มขวัญ หรือป้องปรามไม่ให้มีความพยายามเคลื่อนกองยางเข้ามา แต่เขามีความพยายามตั้งกองยางเพื่อใช้อาวุธเอ็ม 79 ในการยิงทำร้ายเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และประชาชนผู้บริสุทธิ์ ซึ่งเอ็ม 79 มีระยะหวังผลที่ 150 เมตร และมีพื้นที่หวังผล 350 เมตร ดังนั้นไม่สามารถปล่อยให้บังเกอร์ผู้ก่อการร้ายมาอยู่ใกล้กับด่านเจ้า หน้าที่ในระยะใกล้กว่า 400 เมตรได้

ส่วนที่มีการตั้งข้อสงสัยว่า ขณะนี้ไม่มีทหารเสียชีวิตเลย เพราะเรานำมาบทเรียนเมื่อวันที่ 10 เม.ย.มาใช้ คือ ไม่ให้กลุ่มก่อการร้ายหรือผุ้ชุมนุมเข้าประชิดตัวได้ และเราได้มีการใช้กระสุนจริงในการปฏิบัติภารกิจ

พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า ส่วนกรณีที่นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้ชี้แจงว่า มีการต่อสายคุยกับนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงนั้น เป็นความพยายามของนายณัฐวุฒิที่จะติดต่อเจรจาด้วยการใช้คำว่า ขอให้ทหารหยุดยิง ศอฉ.เรียนมาตลอดว่า เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจใช้กระสุนจริงต่อเมื่อถูกยิง ถูกกดดันด้วยอาวุธสงครามเข้ามาก่อน ดังนั้นหากให้ทหารหยุดยิง ไม่ใช่เรื่องยาก คือ การให้กลุ่มก่อการร้ายยุติการดำเนินการในลักษณะการทำร้ายเจ้าหน้าที่

“นายณัฐวุฒิเป็นแกนนำในพื้นที่ และพยายามบอกตลอดให้สังคมทราบว่า ไม่รู้ ไม่เห็นเกี่ยวกับการก่อการร้าย แต่ที่ผ่านมามีภาพ มีข้อมูลโยงใยว่า เป็นไปไม่ได้ที่แกนนำจะไม่รู้ว่า มีผู้ขนอาวุธ มีการตระเตรียมอาวุธยุทโธปกรณ์ไว้ในพื้นที่จำนวนมาก แต่สิ่งที่นายณัฐวุฒิได้เผลอพูดอกมากับนายกอร์ปศักดิ์ว่า เขาสามารถที่จะเรียกคนที่ออกมาสร้างความวุ่นวายภายนอกทั้งการใช้อาวุธสงคราม ยิงเจ้าหน้าที่ ประชาชนนั้น กลับมาที่แยกราชประสงค์ได้แต่ขอให้ทหารหยุดยิงแล้วกัน ซึ่งหลักฐานชัดเจน และเป็นสิ่งที่เชื่อมโยงได้ว่า นายณัฐวุฒิ คือ ผู้ก่อการร้ายตัวใหญ่”  โฆษกศอฉ.กล่าว

พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษก ศอฉ. กล่าวว่า ปัจจุบันเจ้าหน้าที่สามารถการควบคุมการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตย (นปช.)ในพื้นที่ต่างๆ ได้ ภาพรวมการชุมนุมที่เกิดขึ้นทั้งสิ้น 17 จังหวัด รวมมวลชนประมาณ 2,400 คน ในพื้นที่เขตแหลมฉบังมีมากที่สุด ประมาณ1,400-1,500 คน จังหวัดอื่นๆ ตามภาคเหนือ อีสาน มีจังหวัดละ 50-100 คน

สิ่งที่ ศอฉ.ต้องการมากที่สุดคือการยุติการก่อจลาจลนอกพื้นที่เรดโซน ต้องไม่ให้มีการตั้งเวทีปราศรัยในจุดต่างๆ โดยหากมีการตั้งเวที คนปราศรัยจะเจอหมายจับ คนฟังการปราศรัยจะได้รับหมายเรียกตามกฎหมายพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่จะดำเนินการบังคับใช้กฎหมายอย่างเต็มที่

ไทยรัฐออนไลน์ รายงานว่า พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวถึงการซุ่มยิงและทำร้ายประชาชนกับเจ้าหน้าที่ว่า ยังมีกลุ่มบุคคลไม่ทราบฝ่าย ใช้อาวุธปืนยิงมาจากอาคารชีวาทัย ที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง ติดกับโรงแรมเซ็นจูรี่ พาร์ค ทำให้ไม่สามารถเข้าไปประชาสัมพันธ์กดดันกับผู้ชุมนุมได้ ทางบก.น.1 จึงได้ประสานหน่วยทหารให้ดำเนินการต่อไป

ผบช.น.กล่าวอีกว่า วันที่ 17 พ.ค.ที่ผ่านมา เวลา 18.00 น. เกิดเหตุเพลิงไหม้ที่ชั้น 3 อาคารชีวาทัย คาดว่าจะมีมือปืนซ่อนตัวอยู่ หลังเกิดเหตุได้ประสานกทม. นำรถดับเพลิง 3 คันมาควบคุมเพลิง จนกระทั่งเวลาประมาณ 20.00 น. เพลิงจึงสงบ และวันที่ 18 พ.ค. เวลา 07.00 น. เกิดเพลิงไหม้อาคารร้าง เลขที่ 12 ถนนดินแดง แขวงและเขตดินแดง รถดับเพลิง 10 คันรุดไปที่เกิดเหตุ ใช้เวลาควบคุมเพลิง 2 ชั่วโมงจึงสงบ ผู้ชุมนุมจับกุมตัวนายแดง (นามสมมุติ) อายุ 14 ปี สอบสวนรับสารภาพว่า เป็นผู้ลงมือวางเพลิง ทำด้วยความคึกคะนอง จึงส่งตัวดำเนินคดีตามกฎหมาย และนำตัวส่งสถานพินิจคุ้มครองเด็กและเยาวชน  (ดู “ศอฉ.แถลงจับมือขวาเสธ.แดง หน.คุมการ์ด เผย 5วัน มีการยิงเอ็ม 79 รวม 56 ลูก,” ประขาไท, 18 พ.ค. 53)

16.30 น. นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และนายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลง

นายสาทิตย์ชี้แจงในนามของรัฐบาลและทางศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน ถึงประเด็นที่มีกลุ่มสมาชิกวุฒิสภา นำโดยประธานสมาชิกวุฒิสภา เสนอตัว เป็นคนกลางในการเจรจาระหว่างฝ่ายรัฐบาลกับฝ่ายของผู้ชุมนุมนั้น ว่าแนวทางของการเจรจานั้น เป็นแนวทางที่รัฐบาลได้ดำเนินการมาโดยตลอด รวมถึงการเสนอแผนปรองดองก่อนหน้านี้ แต่ก็ถูกปฏิเสธโดยฝ่ายของกลุ่มผู้ชุมนุม โดยเฉพาะก็มีการปรากฎข้อมูลชัดเจนว่าเป็นการแทรกแซงในการตัดสินใจโดยผู้บงการซึ่งอยู่ต่างประเทศ อย่างไรก็ตามเมื่อทาง สว. ได้มีการเสนอตัวเป็นคนกลางในการเจรจานั้น ทางฝ่ายรัฐบาลก็ให้ความสำคัญ โดยทางนายกรัฐมนตรีได้โทรศัพท์ไปยังท่านประธานวุฒิสภา เพื่อชี้แจงถึงแนวทางจุดยืนของรัฐบาลเป็นอย่างไร แต่เนื่องจากสถานการณ์ขณะนี้ บานปลายออกไป เป็นการสร้างความรุนแรง โดยมีกลุ่มของมวลชน ซึ่งใช้ความรุนแรง และกลุ่มของผู้ก่อการร้าย ซึ่งใช้อาวุธสงคราม ร้ายแรง โจมตีรัฐบาล ผู้ที่ทำงานอยู่ในพื้นที่ และประชาชนผู้บริสุทธิ์ จนทำให้เกิดผลกระทบต่อประชาชน ในวงกว้าง ดังนั้นทางรัฐบาลจึงได้ ชี้แจงจุดยืนไปว่า สถานการณ์นี้ จะยุติลงได้ และมีการเจรจา ต่อเมื่อมีการยุติการชุมนุมแล้ว

นายปณิธานชี้แจงว่า คณะรัฐมนตรีได้ปรึกษาหารือกันในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ ที่เกิดขึ้นในวันนี้ และมีมติยืนยันว่า รัฐบาลเดินหน้าผลักดันแผนปรองดอง ซึ่งมีห้าองค์ประกอบที่ชัดเจน และได้รับการสนับสนุนจากในประเทศและนานาชาติ การควบคุมพื้นที่ราชประสงค์ไม่มีปัญหาเท่าไหร่แล้วนะครับ ในพื้นที่เองก็มีสถานการณ์ที่ปรกติแล้วก็มีผู้คนที่ไปชุมนุมน้อยลงตามลำดับ ถึงแม้ว่าหลายพื้นที่ขณะนี้การชุมนุมก็คลี่คลายลงตามลำดับ แต่กลุ่มมวลชนบางกลุ่มโดยเฉพาะกลุ่มที่ติดอาวุธ ก็ยังสามารถที่จะยั่วยุ วางกำลัง และก็สามารถที่จะโจมตีทำร้ายเจ้าหน้าที่ทำร้ายประชาชนได้

เพราะฉะนั้นก็เป็นความจำเป็นที่จะต้องประกาศให้ประชาชนทราบว่าจะต้องหลีกเลี่ยงจากพื้นที่เหล่านี้ ผู้แทนของศอฉ.ได้รายงานให้กับคณะรัฐมนตรีทราบว่า มีพลแม่นปืน ติดอาวุธ อยู่ในกลุ่มกองกำลังติดอาวุธ เพื่อที่จะทำร้ายประชาชน ทำร้ายผู้สื่อข่าว ทำร้ายผู้แทน ของหน่วยงานแพทย์และอนามัย จึงต้องระวังเป็นอย่างยิ่ง แต่ขณะนี้การเข้าไปปิดเส้นทางเหล่านั้น การเข้าไปสกัดกั้น การเข้าไปกดดันก็ทำงานได้ผลขึ้นตามลำดับ แต่ว่าจะต้องใช้เวลา นอกจากนี้ คณะรัฐมนตรีก็มีมติให้ตั้งแต่วันที่ ๑๙ ถึงวันที่ ๒๑ พ.ค.๒๕๕๓ เป็นวันหยุดราชการ ในเขต กทม.
ดูคลิป 20100518_CRES_002

เวลา 18.30 น.ที่กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ (ร. 11 รอ.) พล.ต.ต. อำนวย นิ่มมะโน รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รองผบช.น.) และพ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ร่วมกันแถลงข่าวผ่านสถานีโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย

พล.ต.ต. อำนวยกล่าวว่า กรณีที่มีความพยายามจะตั้งเวทีคู่ขนานกับเวทีที่แยกราชประสงค์ ซึ่งการชุมนุมที่แยกราชประสงค์นั้นศาลแพ่งได้ชี้แล้วว่าเป็นการชุมนุมที่ผิด กฎหมาย เพราะมีการใช้ความรุนแรง มีการละเมิดสิทธิของสาธารณชน อีกทั้งในระยะหลังมานี้มีความชัดเจนว่าไม่ใช่การชุมนุมที่สงบ และก่อให้เกิดความรุนแรง ดังนั้น ใครก็ตามที่ตั้งเวทีคู่ขนานสนับสนุนเวทีราชประสงค์ เท่ากับเป็นการสนับสนุนการกระทำผิดกฎหมาย สนับสนุนการใช้ความรุนแรงภายใต้พื้นที่ที่มีการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ซึ่งเข้าข่ายองค์ประกอบเป็นผู้สนับสนุนการก่อเหตุร้าย

ขณะนี้ศาลอาญารัชดาได้อนุมัติหมายจับแล้ว 2 เวที คือ เวทีที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และเวทีย่านนางเลิ้ง ใกล้มูลนิธิบ้านเลขที่ 111 ทั้งนี้ ทุกเวทีที่มีการตั้งจะมีการขออนุมัติหมายจับแกนนำและผู้ที่ไปตั้งเวทีคู่ ขนานทุกราย รวมถึงเวทีในต่างจังหวัดที่มีการประกาศใช้ พ.ร.ก. ฉุกเฉินฯ ด้วย

นอกจากนี้ บช.น.ยังได้ดำเนินการในเชิงรุก โดยได้อายัดยางรถยนต์เก่าซึ่งอยู่ในร้านค้ายางรวม 139 ร้านค้า รวมยาง 21,660 เส้น ซึ่งทั้งหมดนี้ห้ามจำหน่ายจ่ายโอนเด็ดขาด หากร้านใดจะจำหน่ายต้องไปขออนุมัติจากสถานีตำรวจในท้องที่ ไม่เช่นนั้นจะอนุมัติหมายจับ นอกจากนี้ในส่วนกองบัญคับการตำรวจภูธรภาค 1 (บช.ภ. 1) ยังได้อายัดยางเอาไว้ 9,000 เส้น เมื่อรวมยางของ บช.น. และบช.ภ.1 ขณะนี้ได้อาญัติยางไว้กว่า 30,000 เส้น

พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่าที่ผ่านมายังคงมีการบิดเบือนข่าวสารสร้างภาพลักษณ์ที่เสียหายแก่เจ้าหน้าที่ ในสายตาต่างชาติโดยตลอด จากนั้น ได้ทำการชี้แจงโดยมีการนำเอารูปทหารจำนวน 7 คนที่ถูกยิงตาย ซึ่งถูกนำมากล่าวอ้างว่าเป็นทหารที่กำลังปลดประจำการและถูกยิงชีวิตโดนผู้ บังคับบัญชาเนื่องจากไม่ยอมไปปราบผู้ชุมนุมคนเสื้อแดง ทั้งที่รูปดังกล่าวเป็นรูปของทหารที่เสียชีวิตจากการทำหน้าที่ที่บันนังสตา ในปี 2550

หลังจากนั้น พ.อ.สรรเสริญได้โชว์ภาพนิ่งเพิ่มเติมจากวันก่อน โดยภาพที่นำมาโชว์เป็นเด็กคนเดียวกันแต่ร้องไห้หลังจากวันก่อนเป็นช่วงที่ ไม่ได้ร้องไห้ นอกจากนั้นได้แสดงคลิปผู้ชุมนุมคนเสื้อแดงสอนให้เด็กเป็นคนจุดป้องไฟยิงใส่ ทหาร โดยกล่าวว่านอกจากใช้เด็กเป็นโล่มนุษย์ ยังปลูกฝังค่านิยมความรุนแรงให้เยาวชนรวม รวมทั้งเปิดคลิปผู้ก่อการร้ายสวมเครื่องแบบที่ดูคล้ายเจ้าหน้าที่ โดยแจงว่าเป็นการใส่ร้ายเจ้าหน้าที่ และขอให้ประชาชนใช้ดุลพินิจในการบริโภคข่าวสาร โดยตรวจสอบข้อมูลจากข่าวของรัฐอีกครั้งหนึ่งด้วย  (ดู “ศอฉ.แถลง ศาลออกหมายจับ 5 แกนนำตั้งเวทีคู่ขนาน ขู่ดำเนินการในต่างจังหวัดด้วย,” ประขาไท, 18 พ.ค. 53 ; ดูคลิป 20100518_CRES_003)

20.30 น. พล.ท. ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รองเสนาธิการทหารบกแถลงว่า ผู้ชุมนุมพื้นที่ราชประสงค์ลดลงเหลือ 3,000-5,000 คน ขณะนี้เจ้าหน้าที่ทหารซึ่งปิดล้อมราชประสงค์อยู่นั้นต้องเผชิญอยู่กับอาวุธสงครามของกองกำลังติดอาวุธ ซึ่งแฝงตัวอยู่ในผู้ชุมนุม ที่อยู่รายล้อมรอบด่านด้านนอก โดยเฉพาะด้านราชปรารภ ประตูน้ำ และบ่อนไก่ ในห้วงเวลาตั้งแต่เริ่มขยับวงล้อมเข้าไป สามสี่วันที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ที่ประจำด่านก็ถูกอาวุธยิงเข้ามา ทั้งปืนเล็ก กระสุน M79 รวมถึงสิ่งเทียมอาวุธ เท่าที่บันทึกไว้ในช่วงตั้งแต่วันที่ 13 จนถึงปัจจุบัน ถูกยิง M79 รวมกันแล้ว 58 นัด นอกจากนั้น สิ่งที่เจ้าหน้าที่เผชิญอยู่ก็คือ การก่อความวุ่นวายของผู้ชุมนุมที่อยู่ด้านนอก มีการเผายางรถยนต์ มีการเผายานพาหนะของทางราชการ มีการเผาทำลายสิ่งก่อสร้าง และยังมีการลอบทำร้ายประชาชนผู้บริสุทธิ์

สิ่งที่แกนนำผู้ชุมนุมกำลังทำอยู่คือ พยายามสร้างภาพความวุ่นวายให้เห็นว่ารัฐนั้นไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ เพื่อจะให้เกิดความรุนแรง ยั่วยุให้เจ้าหน้าที่ใช้กำลัง ใช้อาวุธสงครามเข้าทำร้ายประชาชน และพยายามที่จะดึงองค์กรระหว่างประเทศเข้ามา

หลังกองยางที่นปช.อยู่สุ่มเสี่ยงที่จะถูกกองกำลังติดอาวุธเข้าทำร้ายท่าน และโยนความผิดให้เจ้าหน้าที่ ถามว่าทำไมทหารถึงไม่บาดเจ็บ หรือบาดเจ็บน้อย แล้วก็ไม่เสียชีวิตเลย จากประสบการณ์จากวันที่ 10 เม.ย. เราก็ปรับให้มีระยะห่างกับผู้ชุมนุมประมาณ 300-400 เมตร เพื่อป้องกันอาวุธของกองกำลังติดอาวุธ นอกจากนั้นเราก็ยังมีส่วนระวังป้องกันในพื้นที่ที่เราวางตัวอยู่ ตรวจการลงไปยังพื้นที่ตรงหน้า ถ้าเราพบ กองกำลังติดอาวุธถืออาวุธอยู่ เราก็จะสกัด

ประชาชนที่ได้รับบาดเจ็บนั้น ผมก็ตอบไม่ได้ว่ามาจากการสกัดกั้นของเรา หรือกองกำลังติดอาวุธ แต่เวลาบาดเจ็บเขาอยู่ในแนวของผู้ชุมนุมหลังกองยางหรืออยู่ในที่ใดก็ตาม พอได้รับบาดเจ็บ เวลานำส่งโรงพยาบาลเขาไม่ได้เอาปืนที่คนๆ นั้นถือติดไปด้วย ภาพก็จะกลายเป็นว่าเจ้าหน้าที่ยิงผู้บริสุทธิ์ ทั้งๆ ที่ในข้อเท็จจริง ในบางโอกาสคนๆ นั้นอาจจะถืออาวุธอยู่ก็ได้ แล้วเจ้าหน้าที่ที่ระวังป้องกันนั้นได้หยุดยั้งเขาเสียก่อน แต่ก็ไม่ได้มุ่งหมายถึงชีวิต

วันที่ 10 เม.ย. ที่คอกวัวกับสตรีวิทย์ กองกำลังติดอาวุธที่แฝงตัวอยู่ได้ใช้ลูกระเบิดขว้าง 2 ลูก M79 รวมแล้ว 25 นัดยิงเข้าใส่เจ้าหน้าที่ รวมทั้งใช้ปืนเล็กกับอาวุธสงครามยิงเข้าใส่ทหาร เราเสียชีวิตไป 5 คน บาดเจ็บ 567 คน ถ้าทหารวางกำลังแบบนั้นอีก จะเกิดการสูญเสียแน่

ทำไมประชาชนถึงตาย เพราะมีกองกำลังแฝงตัวอยู่ บางคนก็อาจจะเป็นผู้ก่อการที่ถือปืน บางคนก็อาจจะพยายามคืบคลานเข้ามาในแนวที่เราติดป้ายไว้แล้วว่า เป็นแนวกระสุนจริง ก็ยังเข้ามาเพื่อจะทำอะไรก็แล้วแต่ เราก็จะรักษาระยะห่างไม่ยอมให้เข้า ก็ใช้อาวุธตามหลักที่เรากำหนดไว้

ในพื้นที่ต่างจังหวัดก็มีเหตุการณ์เกิดขึ้นหลายจังหวัดเหมือนกัน ในลักษณะของการตั้งเวทีคู่ขนาน มีการปิดถนนบ้างเล็กน้อย หลังจากที่เราประกาศพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เพิ่มเติมในบางจังหวัด ท่านผู้ว่าราชการจังหวัด ในฐานะ ผบ.กองกำลังจังหวัด ก็ได้เข้าไปคลี่คลายสถานการณ์ ซึ่งในภาพรวมยังถือว่าสามารถควบคุมสถานการณ์ได้

ดูคลิป 20100518_CRES_004

 

19 พฤษภาคม 2553

นปช. – ประมาณ 13.45 น. แกนนำ นปช. บางส่วนเข้ามอบตัว

เหตุการณ์ความรุนแรงและจลาจลเกิดขึ้นใน กรุงเทพมหานคร โดยเกิดเพลิงไหม้อาคารต่างๆ รวมทั้งตลาดหลักทรัพย์ สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสี ช่อง 3 ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัวเวิลด์ และเกิดเหตุการณ์ทำนองเดียวกันในหลายจังหวัด โดยเฉพาะที่ศาลาว่าการประจำจังหวัด

รัฐบาล –  รัฐบาลประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ในอีก 2 จังหวัด ได้แก่ กาฬสินธุ์ และมุกดาหาร

ทหารบุกสลายการชุมนุมที่ราชประสงค์ตั้งแต่เวลา 5.45 น.

เวลา 09.35 น. นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทยว่า รัฐบาลและ ศอฉ.กำลังปฏิบัติการกระชับวงล้อมเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่องวันนี้ เพื่อที่จะให้มีการรักษาความปลอดภัย ดูแลความสงบ ระงับเหตุร้าย และบรรเทาสาธารณภัยที่เกิดขึ้นเมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมา ขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงเข้าไปในพื้นที่ปฏิบัติการ รัฐบาลขอให้เจ้าหน้าที่ในท้องถิ่น รวมทั้ง กทม. ได้เตรียมความพร้อมในการเข้าไปบรรเทาสาธารณภัย ชุมชนอาสาสมัครต่างๆ ที่จะเข้าไปดูแลปัญหาที่เกิดขึ้นขณะนี้ก็พร้อมแล้ว ประชาชนที่อยู่ในบริเวณต่างๆ หากว่าได้พบเห็นเหตุร้าย สาธารณภัย อักคีภัย ขอให้แจ้งไปที่สายด่วนของ กทม. หรือหน่วยงานต่างๆ

ดูคลิป 20100519_CRES_001

เวลา 11.35 น. นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ยัน ศอฉ. ควบคุมพื้นที่ลุมพินีได้แล้ว และกำลังมีการกระชับวงล้อมเพิ่มในบริเวณใกล้เคียง รวมทั้งได้รับแจ้งว่าแกนนำ นปช. บางคนได้ทำการหลบหนีออกจากพื้นที่แล้ว หากประชาชนที่พบเห็นแกนนำ นปช. หรือการก่อเหตุการณ์ความไม่สงบให้โทรแจ้งมายังสายตรงของ ศอฉ. ส่วนผู้ชุมนุมที่ต้องการกลับภูมิลำเนานั้นมีจุดรับส่งที่สนามกีฬาแห่งชาติ โดยสามารถใช้เส้นทางผ่านสี่แยกปทุมวันซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่ของ ศอฉ. คอยดูแลอยู่

ดูคลิป 20100519_CRES_002

14.00 น. พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก ในฐานะโฆษกศอฉ. แถลงว่า ในขณะนี้ ศอฉ. ควบคุมสถานการณ์ในภาพรวมไว้ได้แล้ว ขณะนี้กำลังอำนวยความสะดวกให้ผู้ชุมนุมเดินทางกลับภูมิลำเนา โดยขอให้ผู้ชุมนุมไปที่สนามกีฬาแห่งชาติ และลำดับต่อไปจะดำเนินการควบคุมตัวแกนนำ ส่วนการปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ได้หยุดการรุกคืบหน้าในภาพรวมแล้ว

ดูคลิป 20100519_CRES_003

เวลา 16.00 น. ศอฉ. ประกาศเคอร์ฟิว โดยนายกรัฐมนตรีได้ออกข้อกำหนดตาม พ.ร.ก. ฉุกเฉินห้ามมิให้บุคคลใดในเขตพื้นที่ กทม. ออกนอกเคหะสถานภายในเวลาตั้งแต่ 20.00 น. ของวันที่ 19 พ.ค. 53 ถึงเวลา 06.00 น.ของวันที่ 20 พ.ค.53  (ดู “ศอฉ.ประกาศเคอร์ฟิวตั้งแต่คืนนี้ 20.00 น.ถึง 06.00 น.วันพรุ่งนี้,” ประขาไท, 19 พ.ค. 53 ; ดูคลิป 20100519_CRES_004)

เวลา 17.00 น. นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฯ รายงานความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาความความไม่สงบ ซึ่งมีกลุ่มบุคคลออกมาก่อการจราจลในหลายพื้นที่ ว่าขณะนี้เจ้าหน้าสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ตามลำดับ แต่เจ้าหน้าที่ยังคงต้องทำงานต่อไปโดยเฉพาะในยามค่ำคืน เมื่อสถานการณ์ยังไม่เรียบร้อย รัฐบาลขอความร่วมมือประชาชนให้ช่วยกันเฝ้าระวัง และให้อยู่ในบ้านไม่ออกนอกเคหะสถาน อีกสักครู่โทรทัศน์ทุกช่องจะมีการปรับผังรายการพิเศษเพื่อให้รัฐบาลสื่อสารกับประชาชนอย่างเป็นระบบ

รัฐบาลขอเรียกร้องให้ทุกคนที่กำลังก่อความไม่สงบยุติการกระทำดังกล่าว ขณะนี้แกนนำ นปช. ได้ยุติการชุมนุมแล้ว และได้ยอมรับแผนปรองดองแห่งชาติตั้งแต่แรก รัฐบาลหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้นำเอาแผนปรองดองมาแก้ไขปัญหาของประชาชน

ดูคลิป 20100519_CRES_005

เวลา 18.30 น. โทรทัศน์ออกอากาศรายการพิเศษเพื่อทำความเข้าใจกับประชาชนในขั้นตอนการปฏิบัติตัว การเตรียมความพร้อมในการประกาศเคอร์ฟิวของรัฐบาลเพื่อเตรียมตัวสำหรับการรับมือสถานการณ์ที่ฉุกเฉินร้ายแรงในค่ำคืนนี้ และให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมในการยับยั้งเหตุการณ์ที่รุนแรงและเลวร้ายที่จะเกิดขึ้นกับประเทศไทยของเรา มีนายแทนคุณ จิตต์อิสระ เป็นผู้ดำเนินรายการ และมีนายปณิธาน วัฒนายากร พนิช วิกิตเศรษฐ์ ในฐานนะผู้ช่วย รมต. กระทรวงต่างประเทศ และอนุสิทธิ์ คุณากร ในฐานะรองเลขาธิการ สมช. เป็นผู้มาพูดให้ข้อมูล

ปณิธานอธิบายสาเหตุของการลุกลามของสถานการณ์หลังจากที่แกนนำมอบแล้วว่า ได้มีกองกำลังติดอาวุธปะปนในพื้นที่ชุมนุมและนอกพื้นที่ชุมนุมตามที่เคยอธิบายไว้ก่อนแล้ว เข้าปะทะกับเจ้าหน้าที่และทำร้ายประชาชน  ปฏิบัติการในคืนนี้เป็นการจัดการกับกลุ่มคนที่ไม่ยอมยุติการชุมนุมและไม่ยอมรับแผนปรองดอง ขณะนี้ทางต่างประเทศเข้าใจและเห็นแล้วว่าเจ้าหน้าที่ได้ปฏิบัติงานอย่างเป็นขั้นเป็นตอน

จุดประสงค์ของแกนนำบางกลุ่มและคนที่อยู่เบื้องหลังคือการลดความน่าเชื่อถือของประเทศไทย เขาโจมตีเจ้าหน้าที่เพื่อให้เจ้าหน้าที่ต่อสู้ แล้วตัดตอนว่าเจ้าหน้าที่ต่อสู้กับประชาชน ทำให้ประชาชนล้มตาย เขาจะเอาสิ่งเหล่านี้ไปร้องเรียนกับนานาชาติ ทำให้รัฐบาลนั้นหมดสภาพจากการกดดันจากต่างประเทศ แต่ต่างประเทศก็เห็นว่าแนวทางของรัฐบาลนั้นถูกต้องแล้ว คืนนี้สุรินทร์ พิศสุวรรณ เลขาธิการอาเซียน ก็จะคุยกับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งเขามีจุดยืนสนับสนุนการทำงานของรัฐบาล แต่เป็นห่วงเรื่องความรุนแรง

ดูคลิป 20100519_CRES_006

เวลา 19.50 น. ศอฉ.ประกาศเคอร์ฟิว โดยนายกรัฐมนตรีได้ออกข้อกำหนดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ห้ามมิให้บุคคลใดในเขตพื้นที่ประกาศสถานการณ์สถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงทั่วประเทศ เพิ่มอีก 23 จังหวัด (ได้แก่ จังหวัดนนทบุรี จังหวัดสมุทรปราการ จังหวัดปทุมธานี จังหวัดนครปฐม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จังหวัดชลบุรี จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดเชียงราย จังหวัดลำปาง จังหวัดนครสวรรค์ จังหวัดน่าน จังหวัดขอนแก่น จังหวัดอุดรธานี จังหวัดชัยภูมิ จังหวัดนครราชสีมา จังหวัดศรีสะเกษ จังหวัดอุบลราชธานี จังหวัดหนองบัวลำภู จังหวัดมหาสารคาม จังหวัดร้อยเอ็ด จังหวัดสกลนคร จังหวัดกาฬสินธุ์ และจังหวัดมุกดาหาร) ออกนอกเคหะสถานภายในเวลาตั้งแต่ 20.00 น. ของวันที่ 19 พ.ค. 53 ถึงเวลา 06.00 น.ของวันที่ 20 พ.ค. 53  (ดู “ศอฉ.ประกาศเคอร์ฟิวตั้งแต่คืนนี้ 20.00 น.ถึง 06.00 น.วันพรุ่งนี้,” ประชาไท, 19 พ.ค. 53 ; ดูคลิป 20100519_CRES_007)

เวลา 22.00 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี แถลงผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย รายงานสถานการณ์ที่ผ่านมาว่า จากมาตรการในการกระชับวงล้อมการชุมนุมในพื้นที่ราชประสงค์ช่วงที่ผ่านมา ได้เกิดปฏิกิริยาจากผู้ชุมนุมและจากผู้ก่อการร้าย ซึ่งทำให้เกิดเหตุการณ์การวางเพลิงหรือการปิดเส้นทางการจราจรหลายจุด ดังนั้นเราจึงได้ตัดสินใจในการกระชับวงล้อมเมื่อเช้านี้ โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ยุติการชุมนุมโดยเร็วที่สุด ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ยึดหลักปฏิบัติตามหลักสากล ต่อมาในช่วงบ่ายแกนนำผู้ชุมนุมได้ยุติการชุมนุม ทาง ศอฉ. ก็อำนวยความสะดวกให้ผู้ชุมนุมเดินทางกลับภูมิลำเนา และเข้าตรวจพื้นที่ต่างๆ ซึ่งก็ได้ตรวจพบอาวุธจำนวนมาก ตามที่ได้รายงานให้ประชาชนทราบไปแล้ว

อย่างไรก็ดีการยุติการชุมนุมได้ก่อให้เกิดความไม่พอใจแก่กลุ่มที่ใช้อาวุธก่อการร้าย จึงได้เดินหน้าสร้างความวุ่นวาย สร้างความปั่นป่วน โดยเฉพาะการวางเพลิง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้เร่งคลี่คลายสถานการณ์ บางจุดเจ้าหน้าที่สามารถระงับเหตุได้ แต่หลายจุดมีผู้ใช้อาวุธต่อผู้ที่พยายามเข้าไปดับเพลิงหรือช่วยเหลือประชาชน ทำให้ยากลำบากในการระงับเหตุนั้นๆ  และเพื่อให้การทำงานของเจ้าหน้าที่สะดวกมากขึ้น จึงจำเป็นต้องประกาศเคอร์ฟิว ขณะนี้ ศอฉ. ได้ดำเนินการดูแลผลกระทบที่จะเกิดขึ้นและเฝ้าระวังป้องกันในคืนนี้

ทั้งหมดนี้มีเป้าหมายเดียวคือ นำความสงบสุขกลับคืนสู่บ้านเมือง บุคคลที่กำลังทำผิดกฎหมาย โดยเฉพาะการวางเพลิง จะมีโทษหนักและก็เชื่อมโยงกับเรื่องของความผิดฐานการก่อการร้ายด้วย  ขอให้ประชาชนให้ความร่วมมือกับมาตรการที่รัฐบาลและ ศอฉ. ประกาศและเฝ้าระวังเป็นหูเป็นตาให้กับเจ้าหน้าที่

ดูคลิป 20100519_CRES_008_PM

เวลา 22.13 น. นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และ พ.ต.อ.ทรงพล วัธนะชัย รองผู้บังคับการอำนวยการ กองบัญชาการตำรวจนครบาล (รองผบก.อก.บช.น.) และรองโฆษก บช.น.แถลงผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย

โดยนายธาริตประกาศเตือนผู้ไม่หวังดีกับบ้านเมือง ให้หยุดยั้งการกระทำความผิดฐานวางเพลิงเผาทรัพย์สถานที่ราชการและเอกชน และความผิดฐานก่อการร้าย เพราะมีโทษรุนแรงถึงขั้นประหารชีวิต และความผิดทั้งสองฐานนั้นมีความเชื่อมโยงซึ่งกันและกัน หากพบการกระทำที่จะวางเพลิงเผาทรัพย์หรือปล้นสะดมภ์เจ้าหน้าที่มีความจำเป็นที่จะต้องอาวุธ โดยเฉพาะอาวุธปืน ยิงสะกัดกั้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุร้าย ถ้าท่านไปร่วมการชุมนุมห้อมล้อมสถานที่ราชการและมีการวางเพลิงก็ถือเป็นความผิดร่วมกันทั้งสิ้น

ดูคลิป 20100519_CRES_009

เวลา 22.35 น. พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก ในฐานะโฆษกศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) แถลงว่า ศอฉ. ได้จัดประชุมเพื่อสรุปผลการปฏิบัติเมื่อเวลา 19.30 น. โดยมีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ เป็นประธานการประชุม และมีนายกฯ เข้ารับฟังการประชุมด้วย

พ.อ. สรรเสริญแจ้งผลการประชุมที่สำคัญ ได้แก่

  1. ทบทวนการปฏิบัติในช่วงที่ผ่านมา: กลุ่ม นปช. ได้ชุมนุมที่แยกราชประสงค์เป็นเวลากว่า 1 เดือน ซึ่งสร้างผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อประชาชนและประเทศชาติ จนกระทั่ง 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ศอฉ. ได้ปรับกำลังกระชับวงล้อมเพื่อบีบพื้นที่การชุมนุมให้น้อยลง ซึ่งการชุมนุมนั้นได้ยกระดับเป็นการก่อการร้ายเต็มรูปแบบ การกระชับวงล้อมเป็นลักษณะสี่เหลี่ยมเพื่อที่จะสกัดกั้นไม่ให้มีการเพิ่มเติมบุคคลเข้าไปในพื้นที่ชุมนุม แต่สามารถผ่านออกมาได้ และเป็นการป้องกันไม่ให้มีการเคลื่อนย้ายอาวุธสงครามเข้าออกในพื้นที่ ซึ่งได้ดำเนินการควบคู่ไปกับการจำกัดการบริการสาธารณะในทุกรูปแบบ เพื่อยุติการชุมนุมหรือลดจำนวนผู้ชุมนุมลง แต่กลุ่มก่อการร้ายในพื้นที่การชุมนุมของคนเสื้อแดงก็ยังเพิกเฉย จนกระทั่งวันนี้ เวลา 5.45 น. ศอฉ. ได้ตัดสินใจเข้ากดดันและควบคุมพื้นที่บริเวณสวนลุมพินีเนื่องจากมีข้อมูลข่าวสารชัดเจนว่าในพื้นที่มีการซ่องสุมอาวุธสงครามและมีการก่อการร้ายอย่างเต็มรูปแบบ มีความพยายามยิงอาวุธทำร้ายเจ้าหน้าที่ตามด่านต่างๆ รวมทั้งประชาชนผู้บริสุทธ์ด้วยในเวลา 10.15 น. ศอฉ.ก็สามารถควบคุมพื้นที่สวนลุมพินีได้สมบูรณ์แล้วดำเนินการขั้นต่อไป คือปรับแนววางกำลังเพื่อกระชับวงล้อมต่อโดยเริ่มตั้งแต่แยกสามย่าน อังรีดูนังค์ และศาลาแดง มุ่งหน้าเข้าสู่แยกราชประสงค์ แต่ปรากฏว่ากลุ่มก่อการร้ายในพื้นที่ได้พยายามสร้างสถานการณ์ โดยการเผาทำลายอาคารต่างๆ ตลอดเวลา ศอฉ.จึงมีความจำเป็นที่จะต้องดำเนินการปรับการวางกำลัง รุกคืบหน้าต่อไปเพื่อเปิดทางให้หน่วยงานต่างๆ เข้าไปควบคุมเพลิงเวลา 13.45 น. เจ้าหน้าที่สามารถเข้ากดดันจนทำให้แกนนำของกลุ่มก่อการร้ายต้องยุติการชุมนุมและยอมมอบตัว หลังจากนั้น ศอฉ.ได้หยุดเคลื่อนกำลังเข้ากดดันบริเวณพื้นที่แยกราชประสงค์เพื่อลดบรรยากาศความตึงเครียด และอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนผู้หลงผิดที่จะกลับภูมิลำเนาได้เดินทางออก ขณะเดียวกันก็ดำเนินการควบคุมตัวแกนนำไปยังสถานที่ที่จัดเตรียมไว้ ทั้งนี้ในระหว่างที่เจ้าหน้าที่ได้หยุดการเคลื่อนกำลัง ปรากฏว่ากลุ่มผู้ก่อการร้ายที่แฝงตัวอยู่ก็ได้ก่อความวุ่นวาย โดยเข้าทุบทำลายห้างร้าน วางเพลิงอาคารสถานที่สำคัญต่างๆ กว่า 20 แห่ง อย่างไรก็ดีขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้เข้าควบคุมเพลิงได้เกือบหมดแล้ว คงเหลือแต่เพียง CTWที่ยังควบคุมเพลิงไม่ได้ทั้งหมด ด้วยมีผู้ก่อการร้ายซุ่มยิงอยู่บนอาคารสูง ลอบทำร้ายเจ้าหน้าที่ แต่ในขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังพยายามคลี่คลายสถานการณ์อยู่ ในขณะเดียวกันในต่างจังหวัดก็ได้มีการพยายามสร้างสถานการณ์ความวุ่นวายขึ้น แต่ขณะนี้สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ทุกจังหวัด
  2. จนกระทั่งปัจจุบัน ได้มีการประกาศพื้นที่ที่มีการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ทั้งสิ้น 24 จังหวัด ซึ่งได้ประกาศเคอร์ฟิวเพื่อควบคุมสถานการณ์
  3. การปฏิบัติภารกิจในวันนี้จนถึงเวลา 20.00 น. จากการตรวจสอบปรากฏว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บ 59 ราย เสียชีวิต 6 ราย เป็นทหาร 1 นาย ชาวอิตาลี 1 ราย สตรี 1คน ผู้ชาย 3 คน
  4. สถานการณ์โดยรวม พื้นที่ชั้นในบริเวณแยกราชประสงค์ยังเป็นพื้นที่เสี่ยงอยู่ สำหรับผู้ชุมนุมนั้นยังคงเหลืออยู่ในสามพื้นที่ คือ โรงพยาบาลตำรวจ โรงแรมอมรินทร์ และวัดประทุมฯ ซึ่งวันพรุ่งนี้ตำรวจจะเป็นแกนหลักเข้าไปคัดแยกและพิจารณาดำเนินการตามข้อกฎหมายและส่งกลับภูมิลำเนา

ดูคลิป 20100519_CRES_010

ฝ่ายที่สาม/ไม่ทราบฝ่าย – ส.ว. สายพิราบแถลงถูกรัฐบาลหักหลัง

หมายเหตุ –

 

ปฏิกิริยาต่างๆ ต่อการเข้าสลายการชุมนุม

14 พฤษภาคม 2553 – นปช. อุบลราชธานี ใช้รถยนต์ ปิดสะพานเสรีประชาธิปไตย ซึ่งเป็นสะพานคู่ข้ามแม่น้ำมูลระหว่าง อ.เมือง กับอ.วารินชำราบ(www.khaosod.co.th 15 พ.ค.53)

15 พฤษภาคม 2553 – นปช. เชียงใหม่ เดินทางไปยังจวนผู้ว่าฯ สถานกงสุลใหญ่สหรัฐอเมริกา จีน อังกฤษ และ ไปที่ค่าย กาวิละ คัดค้านการใช้ความรุนแรงที่กรุงเทพ(www.khaosod.co.th 16 พ.ค.53)

16 พฤษภาคม 2553 – นปช. อุบลราชธานี จุดไฟเผายางรถยนต์ตามสถานที่ต่างๆ โดยในวันที่ 19 พฤษภาคม 2553 บุกเข้าเผาศาลากลาง และปะทะกับเจ้าหน้าที่(www.khaosod.co.th 17,20,21 พ.ค.53)

นปช. พะเยา ชุมนุมที่หน้าศาลากลางจังหวัด เรียกร้องให้รัฐบาลหยุดสั่งยิงที่กรุงเทพฯ(www.khaosod.co.th 17 พ.ค.53)

17 พฤษภาคม 2553 – นปช.ร้อยเอ็ด ปิดถ.สุริยะเดชบำรุง กลางเมืองร้อยเอ็ด หน้าศาลากลาง

กลุ่มพระสงฆ์ ยื่นหนังสือถึงสหประชาชาติ(ยูเอ็น) เรียกร้องรัฐบาลยุติใช้ความรุนแรงเข่นฆ่าประชาชน และให้ยูเอ็นเข้ามาไกล่เกลี่ยปัญหาความรุนแรงระหว่างรัฐบาลกับกลุ่มเสื้อแดง

นปช. จังหวัดชลบุรี ชุมนุมที่สี่แยกทางเข้าท่าเรือแหลมฉบัง อ.ศรีราชา

นปช. จังหวัดเชียงราย ชุมนุมที่ศาลากลาง เรียกร้องให้รัฐบาลยุติความรุนแรง

นปช. จังหวัดนครราชสีมา ชุมนุมที่ลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี

นปช. จังหวัดมหาสารคาม แห่ขบวนจักรยานยนต์ บีบแตรขับไล่รัฐบาลทั่วเขตเทศบาล และมีการเผายางรถยนต์ตามจุดต่างๆกว่า 10 จุด

นปช. จังหวัดเลย ชุมนุมที่สนามกีฬาจังหวัด เรียกร้องให้รัฐบาลหยุดปราบปราบประชาชน

นปช. จังหวัดมุกดาหาร ชุมนุมที่ศาลากลางจังหวัด เรียกร้องให้รัฐบาลยุติการเข่นฆ่าประชาชน

เกิดเหตุระเบิดที่ธนาคารกรุงเทพ สาขาลำลูกกา คลอง 2 ตำบลคูคต อำเภอลำลูกกา ปทุมธานี

เกิดเหตุปาประทัดยักษ์ใส่ธนาคารทหารไทย สาขาหนองหอย อำเภอเมืองเชียงใหม่ เชียงใหม่

เกิดเหตุปาระเบิดธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่
(www.khaosod.co.th 18 ,21 พ.ค.53)

19 พฤษภาคม 2553 – เกิดเหตุเผาทำลายสถานที่ต่างๆ ในกรุงเทพ 36 จุด ประกอบด้วย 1) ศูนย์การค้าเซ็น เซ็นทรัลเวิลด์ สี่แยกราชประสงค์ 2) โรงภาพยนตร์สยามสแควร์ 3)อาคารตลาดหลักทรัพย์ ถ.รัชดา เขตคลองเตย 4) อาคารมาลีนนท์ 5.) ธ.กรุงเทพ สาขาพระราม 4 เขตคลองเตย 6)การไฟฟ้านครหลวง คลองเตย 7) ธ.กรุงเทพ สาขาอโศก ดินแดง 8) ธ.ออมสิน สาขาดินแดง 9) ธ.กรุงเทพ สาขาดินแดง 10)อาคารสำนักงาน ป.ป.ส. 11) ร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ข้างสำนัก งาน ป.ป.ส. 12) ธ.กรุงเทพ สาขาอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ 13).ธ.กรุงเทพ สาขาสุขุมวิท 83 14) ธ. กสิกรไทย สาขางามดูพลี 15) ธ. กรุงเทพ สาขาสาธุประดิษฐ์ 16) ธ.กรุงเทพ สาขาถนนจันทน์ 17) ธ.กรุงเทพ สาขาสะพานเหลือง 18) ธ.นครหลวงไทย สาขาตลาดปีนัง เขตคลองเตย 19) อาคารล็อกซ์เล่ย์ เขตคลองเตย 20) ห้างเซ็นเตอร์ วัน อนุสาวรีย์ชัยฯ 21) ร้านแม็คโด นัลด์ สาขาข้างห้างเซ็นเตอร์ วัน 22) ห้างวัตสัน อนุสาวรีย์ชัยฯ 23) ร้านหนังสือดอกหญ้า อนุสาวรีย์ชัยฯ 24) ธ.กสิกรไทย สาขาอนุสาวรีย์ชัยฯ 25) ร้านเซเว่น อีเลฟเว่น สาขาอนุสาวรีย์ชัยฯ 26) ร้านก๋วยเตี๋ยวพระ นคร อนุสาวรีย์ชัยฯ 27) ร้านทองพหลโยธิน ซอย 1 28) ธ.กรุงเทพ สาขาหัวลำโพง 29) ธ.กรุงไทย สาขาหน้าโรงเรียนมาแตร์เดอี 30) ห้างบิ๊กซี ราชดำริ 31) ตึกสหชาติ (ตึกร้าง) บริเวณสามเหลี่ยมดินแดง 32) ธ.ไทยพาณิชย์ สาขาประชาชื่น 33) ธ. กรุงเทพ สาขาสยามสแควร์ ซอย 6 34) ธ.ซีไอเอ็มบี สาขาสยามสแควร์ 35) ตึกแถวสี่ชั้น 30 ห้อง สยามสแควร์ ซอย 5 36) ธ.นครหลวงไทย สาขาราชปรารภ (www.khaosod.co.th 20 พ.ค.53)

นปช.จังหวัดนนทบุรี ชุมนุมหน้าสถานีดาวเทียมไทยคม แยกแคราย จุดไฟเผายางรถยนต์บนถนนรัตนาธิเบศร์ รวมทั้งทำลาย-เผาธนาคาร กรุงเทพ และร้าน 7-eleven ในบริเวณใกล้เคียงอีกหลายแห่ง(www.khaosod.co.th 20,21 พ.ค.53)

นปช. จังหวัดอยุธยา ชุมนุมที่ถนนด้านหน้าอาคารศูนย์ราชการจังหวัด เรียกร้องให้ยุติการใช้ความรุนแรงต่อผู้ชุมนุม(www.khaosod.co.th 20 พ.ค.53)

นปช. จังหวัดลพบุรี ชุมนุมที่วงเวียนพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนารายณ์ และเผายางรถยนต์(www.khaosod.co.th 20 พ.ค.53)

นปช. จังหวัดขอนแก่น บุกเข้าไปเผาศาลากลางจังหวัด และสถานีวิทยุโทรทัศน์เอ็นบีที, ทุบทำลายธนาคารกรุงเทพ สาขาขอนแก่น และตู้เอทีเอ็ม, พยายยามจะบุกบ้านบ้านนายประจักษ์ แกล้วกล้าหาญ ส.ส.ขอนแก่น พรรคภูมิใจไทย แต่ถูกยิงตอบโต้ได้รับบาดเจ็บ (www.khaosod.co.th 20 พ.ค.53)

นปช. จังหวัดกาฬสินธุ์ ชุมนุมที่หน้าศาลากลางจังหวัด และได้รวบรวมบัตรประชาชนไปมอบคืนให้ผู้ว่าราชการจังหวัด(www.khaosod.co.th 20 พ.ค.53)

นปช. จังหวัดอุดรธานี ชุมนุมบริเวณหน้าศาลากลาง และบุกพังประตูรั้วเข้าไปเผาอาคารบริเวณศาลากลาง และสำนักงานเทศบาลนครอุดรธานี (www.khaosod.co.th 20 พ.ค.53 ; “รวบแดงตจว.74ปะทะตาย2,” กรุงเทพธุรกิจ, 21 พ.ค.53)

นปช. จังหวัดเชียงใหม่ ชุมนุมเผายางรถยนต์หน้าจวนผู้ว่า, ใช้ก้อนหินขว้างเข้าไปในธนาคารกรุงเทพ สาขาท่าแพ ใช้รถจักรยานยนต์ออกตระเวนทุบทำลายทรัพย์สินสาธารณะ ขว้างระเบิดเพลิง เผายางรถยนต์ในพื้นที่ตัวเมืองเชียงใหม่ อ.สันป่าตอง และ อ.สันทราย(www.khaosod.co.th 20 พ.ค.53)

นปช. จังหวัดชัยนาท นครสวรรค์ กำแพงเพชร รวมตัวกันปิด ถ.สายเอเชีย ฝั่งขาเข้ากรุงเทพ ม. 2 ต.อู่ตะเภา อ.มโนรมย์ จ.ชัยนาถ เป็นเวลาสั้นๆ เพื่อไว้อาลัยแก่คนเสื้อแดงที่ถูกยิงเสียชีวิตที่กรุงเทพ(ไทยรัฐ, 20 พ.ค.53)

นปช. จังหวัดชลบุรี ชุมนุมปิดถนนทางเข้า-ออกโรงกลั่นน้ำมันไทยออยล์ บนถนนสุขุมวิท อ.ศรีราชา(ไทยรัฐ, 20 พ.ค.53)

ปาระเบิดธนาคารไทยพาณิชย์สาขาคลอง 10 อ.ธัญบุรี จ.ปมุมธานี(www.khaosod.co.th 20 พ.ค.53)

ปาระเบิดธนาคารกรุงเทพ สาขาย่อยกาดน้ำทอง ต.นาจักร อ.เมือง จ.แพร่ (www.khaosod.co.th 20 พ.ค.53)

วางเพลิงตู้เอทีเอ็มธนาคารกรุงเทพ สาขาถนนสายลวด ต.ปากน้ำ อ.เมืองสมุทรปราการ และธนาคารกรุงเทพ สาขาสำโรงเหนือ และพยายามก่อเหตุวางเพลิงร้านสะดวกซื้อ 7-eleven (www.khaosod.co.th 20 พ.ค.53; ไทยรัฐ, 21 พ.ค.53)

วางเพลิงและเผายางรถยนต์ตามจุดต่างๆ ในพื้นที่หลายจุด ในเขตเทศบาลเมือง, อ.พาน, อ.แม่สาย จ.เชียงราย(www.khaosod.co.th 20 พ.ค.53)

20 พฤษภาคม 2553 – วางเพลิงใส่ธนาคารนครหลวงไทย สาขาสามเหลี่ยมดินแดง (ไทยรัฐ, 21 พ.ค.53)

 

เหตุการณ์ภายหลังสลายการชุมนุม

20 พฤษภาคม 2553

นปช. – (เน้นตัวแดง)นายวีระ นพ.เหวง และนายก่อแก้ว มอบตัวที่กองปราบปราม แกนนำ นปช. ทั้งหมดถูกนำไปควบคุมตัวที่กองกำกับการสนับสนุนทางอากาศ ตำรวจตระเวณชายแดน หรือค่ายนเรศวร อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี เช่นเดียวกับแกนนำ 5 คนที่มอบตัวไปเมื่อวันที่ 19 พ.ค. ยกเว้นนายจตุพรที่ได้รับการปล่อยตัวเพราะใช้เอกสิทธิ์ ส.ส.

รัฐบาล – เวลา 10.30 น. พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม พร้อมคณะเข้าตรวจพิสูจน์ศพผู้เสียชีวิตภายในวัดปทุมวนารามฯ จำนวน 6 ศพ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ กล่าวว่า ผู้เสียชีวิตอยู่ในเต็นท์พยาบาลถูกกลุ่มคนไม่ทราบฝ่ายยิงใส่ บาดแผลทั้ง 6 ศพไม่ได้เสียชีวิตจากอาวุธชนิดเดียวกันทั้งหมด เพราะ 2 ศพมีรูขนาด 2 ซ.ม. และไม่ทะลุ ที่เหลือถูกยิงเป็นรูเล็กๆ คล้ายๆ ปืนเอ็ม 16 แต่ยังตอบไม่ได้ ขณะที่อีกศพมีรอยเขม่าที่ท้อง (ดู “ศอฉ. โชว์อาวุธ กระสุน-ปืน-ระเบิด อ้างยึดจากสวนลุม-วัดปทุมฯ,” ประชาไท, 21 พ.ค.53

11.00 น. นายปณิธาน วัฒนายากร โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก โฆษกศอฉ. แถลงผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย

นายปณิธานรายงานสถานการณ์ว่า เมื่อคืนนี้เป็นที่ปรากฎชัดเจนว่ามีการก่อความไม่สงบ ในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะความพยายามในการก่อกวน วางเพลิง ทำร้ายเจ้าหน้าที่และประชาชนในพื้นที่ ตลอดแนวถนนพระรามสี่ บริเวณคลองเตย บริเวณปากซอยไผ่สิงโต และในบริเวณพื้นที่ที่มีความสำคัญของทางราชการ ย่านศูนย์การค้า และบริเวณรอบๆกรุงเทพความพยายามดังกล่าวทำให้มีการบาดเจ็บและล้มตายของประชาชน เฉพาะเมื่อวานรายงานเบื้องต้นพบว่ามีผู้บาดเจ็บประมาณ 88 ราย มีผู้เสียชีวิตแล้ว 7 ราย

ประชาชนที่มาชุมนุมส่วนใหญ่ปฏิบัติตามกฎเกณฑ์กติกา ได้เดินทางกลับสู่ภูมิลำเนาโดยปรกติ แต่ยังมีคนอีกกลุ่มนึงที่พยายามจะสร้างสถานการณ์ วันนี้ ศอฉ. จะส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปในพื้นที่เพิ่มเติม เพื่อควบคุมเหตุการณ์

เมื่อคืนมีการปะทะกันรอบๆ วัดปทุมวนาราม รัฐบาลและ ศอฉ. ได้รับการร้องขอให้เข้าไปช่วยเหลืคนที่บาดเจ็บ คนที่เสียชีวิต ในบริเวณวัดปทุมวนารามในตอนหัวค่ำ แล้วก็ได้ประสานส่งเจ้าหน้าที่ ส่งหน่วยพยาบาลเข้าไป ปรากฎว่าเข้าไม่ได้ โดนต่อต้านอย่างรุนแรงจากกลุ่มบุคคลที่ติดอาวุธ กว่าเจ้าหน้าที่จะสามารถเข้าไปเพื่อเปิดพื้นที่ให้ลำเลียงเอาคน บาดเจ็บคนที่เสียชีวิตออกมาได้ ใช้เวลานานมาก เหตุการณ์ที่วัดปทุมวนารามมีการวางแผน มีการดำเนินการ มีการกระทำซึ่งต่อต้านการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่อย่างชัดเจน เมื่อเช้านี้สำนักข่าวต่างประเทศหลายสำนักได้รายงานตรงกันถึงกลุ่มคนเหล่านี้ที่ได้วางเพลิง ก่อกวน ที่มีอาวุธสงคราม นำมาซึ่งความสูญเสียต่างๆ ที่เกิดขึ้น

รัฐบาลยืนยันว่า จะดำเนินการทุกวิถีทางที่จะปกป้องดูแลชีวิตพี่น้องประชาชน วันนี้จะมีการประกาศมาตรการเพิ่มเติม รวมทั้งการประกาศห้ามออกนอกเคหะสถาน ซึ่งพ.อ.สรรเสริญ ก็จะได้แถลงต่อไป

พ.อ.สรรเสริญแถลงว่า ศอฉ. มีเรื่องสำคัญที่จะเรียนประชาชนเพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง ดังต่อไปนี้

  1. เมื่อวานในพื้นที่ต่างจังหวัด ทั้งเหนือ กลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีความพยายามในการสร้างสถานการณ์อยู่ตลอด อย่างไรก็ตามเมื่อเช้านี้ได้มีการตรวจสอบกับทางผู้ว่าราชการจังหวัดและแม่ทัพภาค ก็ได้ข้อมูลว่าเจ้าหน้าที่สามารถที่จะควบคุมสถานการณ์ในภาพรวมไว้ได้เรียบร้อย และสามารถจับกุมกลุ่มผู้กระทำความผิดได้จำนวนหนึ่ง สำหรับในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร ตั้งแต่เมื่อวานจนกระทั่งเมื่อคืนที่ผ่านมา ก็มีความพยายามในการสร้างสถานการณ์ การเผาวางเพลิง เพื่อทำลายทรัพย์สินของทางราชการ อาคารพาณิชย์ สถานีโทรทัศน์ เป็นจำนวนถึง 39 แห่ง เมื่อคืนหลายพื้นที่ เจ้าหน้าที่สามารถเข้าควบคุมเพลิงและยุติการก่อเหตุได้ แต่ในบางพื้นที่ยังคุมได้ไม่เต็มที่นัก เนื่องจากมีกลุ่มก่อการร้าย มีอาวุธสงครามที่ร้ายแรง ซึ่งคอยลอบยิงเจ้าหน้าที่ ในระหว่างที่จะเข้าไปแก้ไขสถานการณ์อยู่ตลอดเวลา
  2. เรื่องความพยายามที่จะลอบทำร้ายประชาชน ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ชุมนุมเอง ในเขตวัดปทุมวนาราม เมื่อเช้าคุณหมอพรทิพย์ได้แจ้งให้ทราบว่า ก่อนหน้าที่จะแถลงข่าวประมาณ 20 นาที คุณหมอพร้อมคณะได้เข้าไปตรวจสอบในพื้นที่ ก็พบศพผู้เสียชีวิตประมาณ 6 ศพอยู่ในเต็นท์กาชาด สอบถามข้อมูลเบื้องต้นได้ความว่า มีผู้ลอบยิงอาวุธสงคราม มายังพี่น้องประชาชนในขณะที่เขาพยายามจะเดินออกจากพื้นที่วัดปทุมวนาราม ผ่านแยกปทุมวัน เพื่อไปทางสนามกีฬาศุภชลาศัย ตามที่เจ้าหน้าที่ได้อำนวยความสะดวกเพื่อให้พี่น้องประชาชนได้กลับบ้าน ในช่วงเวลาประมาณ 17.00-18.00 น.สิ่งหนึ่งที่ยืนยันได้เป็นอย่างดีคือ ในช่วงเวลาดังกล่าวเจ้าหน้าที่ทหารตำรวจยังไม่สามารถที่จะเข้าไปยังบริวณพื้นที่วัดปทุมวนารามได้เลย คงมีเฉพาะเจ้าหน้าที่กาชาด กทม. และอื่นๆ ที่พยายามเข้าไปดูแล เรายืนยันมาโดยตลอดว่า เจ้าหน้าที่ทหารตำรวจไม่มีความประสงค์ที่จะทำร้ายประชาชนหรือผู้ที่ไม่มีอาวุธ เมื่อวานนี้เจ้าหน้าที่ทหารตำรวจใช้กำลังทั้งสิ้นถึง 112 กองร้อย ในการที่จะกดดันเพื่อให้มีการยุติการชุมนุม ถ้าเรามีความตั้งใจที่จะทำร้ายพี่น้องประชาชน ยอดจำนวนผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจะสูงกว่านี้มากนัก เจ้าหน้าที่ฝ่ายรัฐทุกฝ่าย รวมถึงทาง ศอฉ. พร้อมที่จะให้ความยุติธรรม ด้วยกระบวนการตรวจสอบทุกอย่างที่มีอยู่ รวมทั้งในทางนิติวิทยาศาสตร์ ซึ่งวันนี้ คุณหมอพรทิพย์ได้เข้าไปในพื้นที่เกิดเหตุแล้ว
  3. เรื่องของการสร้างสถานการณ์วางเพลิง เผาทรัพย์ ก่อเหตุความวุ่นวายไปทั่ว นั้นเป็นการดำเนินการอย่างมีแผน มีระบบ ก่อนหน้าที่จะมีการชุมนุมที่ราชประสงค์ ได้มีการชุมนุมในพื้นที่ตามต่างจังหวัด แล้วก็มีแกนนำบางท่านได้ปราศรัยอย่างชัดเจน ยุยงให้เกิดการเผาทำลายทรัพย์ (มีการเปิดคลิปปราศรัยของณัฐวุฒิ “เผาทั่วประเทศ เผาไปเลยพี่น้อง ผมรับผิดชอบเอง ถ้าคุณยึดอำนาจพวกผม เผาทั่วประเทศ เผาไปเลยพี่น้อง ผมรับผิดชอบเอง แล้วใครจะจับ ใครจะอะไร มาเอากับผมนี่ ถ้าคุณยึดอำนาจ เผา)
  4. ก่อนหน้านี้ประมาณสองสัปดาห์ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง เป็นหัวหน้าทีมในการเข้าไปตรวจค้นที่พักอาศัยบางแห่ง แล้วก็สามารถ ตรวจยึดอาวุธสงคราม ระเบิด สิ่งเทียมอาวุธ ระเบิดแสวงเครื่อง ได้เป็นจำนวนมาก ซึ่งคุณหญิงหมอพรทิพย์ก็ได้นำมาแถลงข่าวเมื่อประมาณสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ในขณะเดียวกัน เมื่อวาน ในพื้นที่สวนลุมพินีก็มีการจับวัตถุระเบิด อาวุธสงคราม และสิ่งเทียมอาวุธได้อีกจำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ พล.ต.ท. วรพงษ์ ชิวปรีชา ได้รายงานกับที่ประชุม ศอฉ. เมื่อวานนี้ในช่วงเวลา 19.30 น. ว่า ในระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปในพื้นที่อาคารเซ็นทรัลเวิลด์ เพื่อที่จะไปอำนวยความสะดวกให้เจ้าหน้าที่ชุดดับเพลิงเข้าไปควบคุมเพลิง ก็ได้ถูกยิงต่อต้านจากกลุ่มชายชุดดำที่มีอาวุธสงคราม แต่ก็สามารถบุกเข้าจับตัวได้จำนวนหนึ่ง ปะทะกันสองครั้ง จับได้ครั้งละประมาณสี่ถึงห้าคน
  5. การปฏิบัติของ ศอฉ. ในวันนี้ ในส่วนของเจ้าหน้าที่ทหารจะดำเนินการในเรื่องการเข้าตรวจสอบรายละเอียดของพื้นที่ในรัศมีโดยรอบของแยกราชประสงค์ ที่เรายังเห็นว่าเป็นพื้นที่ที่สุ่มเสี่ยงต่ออันตราย รวมทั้งในอาคารสถานที่ ต่างๆ ซึ่งเราเชื่อว่ายังเป็นที่หลบซ่อนของกลุ่มชายชุดดำที่มีอาวุธสงคราม แล้วลอบทำร้ายเจ้าหน้าที่ และวางเพลิงเผาทรัพย์ในที่ต่างๆ อยู่ ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะคัดแยกคัดกรองผู้ร่วมชุมนุม เพื่อบันทึกรายละเอียดสำหรับการดำเนินการตามข้อกฎหมายในอนาคต แล้วก็จะส่งตัวกลับบ้านอย่างปลอดภัย
  6. ขณะนี้มีความพยายามในการสร้างสถานการณ์บางอย่าง เพราะฉะนั้น นอกเหนือจากพี่น้องประชาชนในที่ชุมชนต่างๆ ทั้งในกรุงเทพ และในต่างจังหวัด จะต้องช่วยกันเป็นหูเป็นตา แจ้งข้อมูลข่าวสารให้กับเจ้าหน้าที่ ฝ่ายราชการได้รับทราบแล้ว สิ่งหนึ่งที่ทาง ศอฉ. ได้มองเห็นความจำเป็นก็คือ ความเข้มแข็งของพี่น้องในชุมชนเอง โดยผู้นำของชุมชน โดยพี่น้องประชาชนในพื้นที่ชุมชนจะต้องช่วยกันในการที่จะ ดูแลรักษาชุมชนของท่านให้เกิดความปลอดภัย
  7. ศอฉ.ได้พิจารณานำเสนอรัฐบาลว่า จะขอให้มีการประกาศ พื้นที่ ที่ห้ามออกนอกเคหสถานในยามวิกาล ต่ออีกสามวัน ในพื้นที่เดิม แต่จะปรับเวลาห้ามออกนอกเคหสถานยามวิกาล เป็นยี่สิบเอ็ดนาฬิกาหรือสามทุ่ม จนกระทั่งถึงตีห้า

(ดูคลิป 20100520_CRES_001)

13.00 น. ศอฉ. ประกาศขยายมาตรการห้ามออกจากเคหะสถานอีก 3 วัน แต่ลดระยะเวลาเป็นช่วง 21.00 น. – 05.00 น. ของวันถัดไป

ดูคลิป 20100520_CRES_002

16.00 น. พ.ต.อ.ทรงพล วัธนะชัย รองผู้บังคับการอำนวยการ กองบัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบก.อก.บช.น.) รองโฆษก บชน. พ.ต.อ.วิสูตร ฉัตรชัยเดช รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี ผู้แทนกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 และแพทย์หญิงคุณหญิง พรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ร่วมกันแถลง

โดยในส่วนของกองบัญชาการตำรวจนครบาลนั้น รายงานว่าภายหลังจากการเข้าเคลียร์พื้นที่ในลริเวณสวนลุมพินี ก็ตรวจค้นพบอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน ประกอบไปด้วย หัวกระสุนที่ยังไม่ได้ยิงจำนวน 80 ลูก M79 จำนวน 18 นัด และเครื่องกระสุนปืน M16 จำนวน 250 นัด เครื่องกระสุนปืนที่ใช้ยิงกับ HK จำนวน 2 นัด และหลังจากที่มีการประกาศการสลายการชุมนุมแล้วมีการก่อเหตุจลาจล ทาง สน.ปทุมวันได้ทำการจับกุมผู้ต้องหาร่วมกันปล้นทรัพย์และฝ่าฝืน พ.ร.ก. ฉุกเฉินฯ 9 คน พร้อมของกลางประกอบไปด้วยโทรศัพท์มือถือ เครื่องวีดีโอ สุรา วิทยุ และอุปกรณ์อีกหลายอย่าง นอกจากนี้ยังได้ทำการจับกุม ผู้ต้องหาที่ร่วมการลักทรัพย์และผู้ที่ก่อเหตุความวุ่นวายบริเวณโดยรอบได้อีกจำนวน 24 ราย นำส่งสถานีตำรวจนครบาลปทุมวัน

ด้านกองบัญชาการตำรวจภูธรภาคหนึ่งแถลงว่า ตำรวจภูธร จังหวัดนนทบุรี สภ.บางใหญ่ ได้ตรวจค้นผู้ต้องสงสัย 3 คน ซึ่งใช้รถแท๊กซี่เป็นพาหนะ พบระเบิดพีบอมป์ ด้ามไม้ ลูกดอก มีดพับ กล้องส่องทางไกล ซุกซ่อนอยู่ด้านหลังของรถแท็กซี่ ส่วนตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ โดย สภ.สำโรงเหนือ บริเวณหน้า ได้สกัดจับกลุ่มวัยรุ่นซึ่งใช้รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ 4 คัน ปิดป้ายทะเบียนรถ และใช้หน้ากากปิดหน้า แล้วขว้างระเบิดเพลิงเข้าไปที่ธนาคารกรุงเทพ สาขาสำโรงเหนือ เจ้าหน้าที่สามารถเข้าจับกุมผู้ต้องหาได้หนึ่งราย ซึ่งจากการสอบสวน ทราบว่า ถ้าเราจับกุมไม่ได้ ก็จะไปก่อเหตุอีกหลายราย

ด้านหมอพรทิพย์ได้รายงานว่า เมื่อวานได้มีการขอพื้นที่คืนบริเวณถนนสารสิน ทางทหารและตำรวจได้ตรวจพบอุปกรณ์จำนวนมาก ประกอบไปด้วยพาร์ทบอม เป็นลูกระเบิดทุกรูปแบบ โดยมีการประกอบเอง มีวัตถุดิบ มีสารเคมีสามแกลลอนใหญ่ ผู้เชี่ยวชาญวัตถุระเบิดได้บอกว่าสารเคมีอันนี้ผสมกับน้ำมันและตกผลึก จะทำระเบิดได้ ซึ่งก็พบเป็นสารที่อยู่ในวัตถุระเบิดที่เราได้พบ นอกจากนั้นก็พบอาวุธก่อเหตุจำนวนหนึ่ง

สำหรับวันนี้มีภารกิจอยู่ 2 ภารกิจ ภารกิจแรกคือ เข้าตรวจในพื้นที่ที่มีการชุมนุมกัน ทางทหารได้เข้าตรวจค้น ก็พบว่าในบริเวณเต็นท์ของการ์ดเสื้อแดง มีกระสุนปืนเอ็ม16 และก็พบระเบิดและระเบิดเพลิง

ภารกิจที่สองคือการชันสูตรศพ ก็เป็นที่ชัดเจนว่า เมื่อวานผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในเต็นท์พยาบาลในวัดปทุมวนาราม ได้ถูกยิงโดยกลุ่มบุคคล ซึ่งไม่ทราบว่าเป็นฝ่ายใด เสียชีวิตทั้งหมด 6 คน เมื่อเช้านี้บรรดาชาวบ้านกลัวว่าเจ้าหน้าที่จะเอาศพไปซ่อน ดังนั้นเมื่อเราเข้าไปจึงได้ทำให้เขาเห็นว่าอย่างน้อยมีการชันสูตรร่วมแล้ว ศพจะไม่หายไปไหน แล้วศพก็ถูกส่งไปชันสูตรที่สถาบันนิติเวช

หลังจากนั้น พ.อ. สรรเสริญได้ชี้แจงเรื่องที่เจ้าหน้าที่ไม่สามารถเข้าไปดับเพลิงในอาคารที่มีเพลิงไหม้ได้ว่า เนื่องจากมีกลุ่มบุคคลคอยขัดขวาง และการวางเพลิงนั้นมีการวางแผนไว้แล้วพร้อมกับเปิดภาพคนที่ใส่หมวกไหมพรมปิดหน้า ใช้วิทยุสื่อสาร โดย พ.อ. สรรเสริญอธิบายว่าเป็นการสื่อสารแจ้งสถานการณ์และสั่งการในการวางเพลิง และได้แสดงภาพที่อธิบายว่าเป็นเจ้าหน้าที่กำลังจะเข้าไประงับเหตุแต่ถูกยิงเสียชีวิต (ซึ่งที่จริงเป็นภาพของวันที่ 15 พ.ค. ไม่ใช่ 19 อย่างที่พ.อ.สรรเสริญกล่าว คนที่ถูกยิงเสียชีวิตนั้นคือนายมานะ สนประเสริฐศรี) พ.อ.สรรเสริญยังแสดงภาพคนกำลังเล็งปืน (ภาพบริเวณงามดูพลี ใกล้ๆ กับจุดที่นายมานะถูกยิง แต่คาดว่าจะเป็นภาพก่อนที่มานะจะวิ่งเข้าไปแล้วถูกยิงในจุดนั้น) ภาพคนใส่หมวก ปิดหน้า ชุดดำที่สะพายเป้ถือบ้องเหล็กสำหรับยิงพลุตะไล รวมถึงผู้ชุมนุมที่เอาเสื้อเกราะกันกระสุนของทหารมาใส่พร้อมผ้าพันคอของ นปช. โดยสรรเสริญอธิบายภาพว่าเป็นผู้ชุมนุมที่ต้องการให้คนเข้าใจผิดว่าเป็นเจ้าหน้าที่

ดูคลิป 20100520_CRES_003

เวลา 20.30 น. ณ ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ พล.ท.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รองเสนาธิการทหารบก แถลงผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย สรุปการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ทหารในการขอคืนพื้นที่เมื่อวานนี้

ดูคลิป 20100520_CRES_004

ศอฉ. ยังได้ออกคำสั่งห้ามสถาบันการเงินดำเนินการทำธุรกรรมกับบุคคลและนิติบุคคลระลอกที่สาม จำนวน 21 ราย

ฝ่ายที่สาม/ไม่ทราบฝ่าย –

หมายเหตุ –

 

21 พฤษภาคม 2553

นปช. –

รัฐบาล – นายกรัฐมนตรีแถลงว่า รัฐบาลยังคงดำเนินการตามแผนปรองดองเพื่อฟื้นฟูและการกลับคืนสู่สภาพปกติ จะมีการจัดตั้งองค์กรอิสระเพื่อสืบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงการชุมนุม

ศอฉ. จัดตั้งศูนย์ประสานงานเพื่อรับลงทะเบียนธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ชุมนุมเพื่อให้ความช่วยเหลือและการฟื้นฟู

กองทัพภาคที่ 2 ออกคำสั่งเรียกแกนนำคนเสื้อแดง รวมทั้ง ส.ส. พรรคเพื่อไทย รวม 20 คน ในพื้นที่ภาคอีสาน 7 จังหวัด ให้มารายงานตัวที่กองทัพภาคที่ 2

ฝ่ายที่สาม/ไม่ทราบฝ่าย –

หมายเหตุ –

 

22 พฤษภาคม 2553

นปช. –

รัฐบาล – ศอฉ. แถลงสรุปแก่คณะทูตานุทูตต่างประเทศ ผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศ รวมทั้งสื่อมวลชนไทยและต่างประเทศ เกี่ยวกับการปฏิบัติการกระชับวงล้อมที่แยกราชประสงค์ พร้อมกับนำอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ระบุว่าเจ้าหน้าที่ตรวจยึดได้จากบริเวณพื้นที่การชุมนุมมาจัดแสดงหลายร้อยรายการ

ฝ่ายที่สาม/ไม่ทราบฝ่าย –

หมายเหตุ –

 

23 พฤษภาคม 2553

นปช. –

รัฐบาล –  ศอฉ. ประกาศขยายมาตรการห้ามออกนอกเคหะสถาน เป็นวันที่ 23-24 พฤษภาคม และลดช่วงเวลาเป็นระหว่างเวลา 23.00 – 04.00 น. ของวันถัดไป ขณะเดียวกัน มีการเปิดเส้นทางจราจร ซึ่งเคยปิดกั้นในช่วงการปิดล้อมการชุมนุม เพื่อให้สาธารณชนได้ใช้ตั้งแต่เวลา 04.00 น. ในวันที่ 24 พฤษภาคม

ฝ่ายที่สาม/ไม่ทราบฝ่าย – Big Cleaning Day ดารา/นักร้อง รวมถึงกลุ่มประชาชน ออกมาทำความสะอาดราชประสงค์และพื้นที่อื่นๆ ที่มีการชุมนุม

หมายเหตุ –

 

24 พฤษภาคม 2553

นปช. –

รัฐบาล – นายสุเทพระบุชายที่อยู่บนรางรถไฟฟ้าบีทีเอสในช่วงเกิดเหตุผู้เสียชีวิตในวัดประทุม ไม่ใช่ทหาร แต่เป็นโจรผู้ร้าย

ศอฉ. ขยายเคอร์ฟิวเพิ่มอีก 7 วัน ไปถึงวันที่ 31 พ.ค. แต่เปลี่ยนเวลาเป็น 00.00-04.00 น. พร้อมกับย้ายที่ประชุม ศอฉ. จาก ร.11 รอ. ไปยังกองบัญชาการทหารบก

ฝ่ายที่สาม/ไม่ทราบฝ่าย – นายสุธาชัย ยิ้มประเสริฐ เข้ามอบตัวกับกองปราบปรามคดีฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ

หมายเหตุ –

 

25 พฤษภาคม 2553

นปช. –

รัฐบาล – นายมานิต วัฒนเสน ปลัดกระทรวงมหาดไทย มีคำสั่งให้ผู้ว่าราชการจังหวัดที่ถูกเผาศาลากลางจังหวัด ได้แก่ ขอนแก่น มุกดาหาร อุบลราชธานี และอุดรธานี มาช่วยราชการที่กระทรวงมหาดไทย

คณะรัฐมนตรีอนุมัติมาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม รวมถึงการจ่ายเงินช่วยเหลือแก่ผู้สูญเสียธุรกิจจากการวางเพลิง รวมทั้งการช่วยเหลือระยะยาวแก่ชุมชุนที่ได้รับกระทบ ลูกจ้าง และเจ้าของธุรกิจ

คณะรัฐมนตรีตัดสินให้ขยายมาตรการห้ามออกนอกเคหสถานเป็นวันที่ 25-28 พฤษภาคม 2553 ในช่วงเวลาเที่ยงคืนถึงตีสี่ของวันถัดไป

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว. สาธารณสุข สรุปตัวเลขผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ระหว่างวันที่ 12 มี.ค. – 25 พ.ค. 53 มีผู้เสียชีวิต 88 คน บาดเจ็บ 1,885 คน

ฝ่ายที่สาม/ไม่ทราบฝ่าย – ศาลอาญาอนุมัติหมายจับอดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ ชินวัตร ข้อหาก่อการร้ายอันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ตามที่ดีเอสไอยื่นคำร้องเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม นอกจากนี้ ยังมีหมายจับแกนนำ นปช. และสมาชิกในข้อหาเดียวกัน

หมายเหตุ –

 

27 พฤษภาคม 2553

นปช. –

รัฐบาล – พล.ต.อ. ปทีป รักษาราชการแทน ผบ.ตร. สั่งย้ายนายตำรวจหลายนาย ในจังหวัดที่ศาลากลางถูกเผา

ฝ่ายที่สาม/ไม่ทราบฝ่าย –  อ.สุธาชัย อดข้าวประท้วงในค่ายทหารสระบุรีหลังถูกห้ามอ่านหนังสือ หนังสือพิมพ์ และดูโทรทัศน์

หมายเหตุ –

 

29 พฤษภาคม 2553

นปช. –

รัฐบาล – รัฐบาลประกาศยกเลิกเคอร์ฟิว

นายกฯ อภิสิทธิ์เชิญทูตกว่า 70 ประเทศ และองค์กรอื่นอีกจากกว่า 30 ประเทศ รวมทั้งสื่อต่างประเทศเข้าฟังคำชี้แจงเหตุการณ์สลายการชุมนุม ยืนยันพร้อมตั้งคณะกรรมการกลางขึ้นมาตรวจสอบเหตุการณ์ ถ้าผิดก็พร้อมรับผิด

ฝ่ายที่สาม/ไม่ทราบฝ่าย –

หมายเหตุ –

 

31 พฤษภาคม 2553 – มีการอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและ รมต. อีก 5 คน โดยมีเรื่องการสลายการชุมนุมเป็นประเด็นหนึ่งที่สำคัญในการอภิปราย

 

<<< Back                                                                                                                                                                                Next >>>